‘พริมา มารีน’ ประกาศจ่ายปันผลอัตรา 0.14 บาทต่อหุ้น

‘บมจ.พริมา มารีน’ หรือ (“PRM”) โชว์รายได้รวมปี 61 ทำได้ 4,479.7 ล้านบาทและมีกำไรสุทธิ 746.4 ล้านบาท หลังปรับพอร์ตกองเรือรับกับทิศทางอุตสาหกรรม ส่งผลดีต่อการบริหารต้นทุนที่ดีขึ้น ด้านบอร์ดฯ ประกาศจ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.14 บาท ส่วนปี 62 ฟันธงแนวโน้มอุตสาหกรรมดีขึ้น จากสัญญาณค่าระวางเรือที่ปรับตัวสูงขึ้น หนุนกลุ่มธุรกิจเรือขนส่งระหว่างประเทศและเรือ FSU สดใส เล็งเสริมกองเรือ ส่วนกลุ่มเรือเล็กขนส่งในประเทศจะทยอยรับเรือใหม่เพิ่มอีก 6 ลำ หนุนศักยภาพการดำเนินธุรกิจแข็งแกร่ง  

               
นายชาญวิทย์ อนัคกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พริมา มารีน จำกัด (มหาชน) (“PRM”) ผู้ให้บริการขนส่งและจัดเก็บผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและปิโตรเคมีเหลวทางเรืออย่างครบวงจรรายใหญ่ที่สุดของประเทศไทย เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในปี 2561 บริษัทฯ มีรายได้รวม 4,479.7 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 746.4 ล้านบาท ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 4,501.0 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 759.1 ล้านบาท หลังจากอุตสาหกรรมขนส่งปิโตรเลียมทางทะเลระหว่างประเทศส่งผลกระทบต่อเรือขนส่งขนาดใหญ่ระหว่างประเทศและกลุ่มธุรกิจ FSU หรือเรือขนส่งและจัดเก็บน้ำมันดิบ อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้เน้นการบริหารจัดการกองเรือของPRM ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับภาวะของอุตสาหกรรม เพื่อบริหารจัดการต้นทุนได้และสร้างรายได้จากการให้บริการสูงสุด

               
โดยบริษัทฯ ได้ปรับเปลี่ยนสัญญาขนส่งน้ำมันระหว่างประเทศ และการขายเรือ FSU จำนวน 2 ลำ ที่มีอายุการใช้งานมานานเพื่อลดค่าใช้จ่าย ส่งผลให้เรือ FSU ที่มีอยู่ 5 ลำ สามารถเพิ่มอัตราการใช้งานเรือเฉลี่ยมากกว่า 90% นอกจากนี้ PRM ยังปรับแผนมุ่งขยายกองเรือในประเทศที่ยังมีอัตราการเติบโตที่ดีด้วยการเข้าไปซื้อกิจการ บิ๊ก ซี หนึ่งในผู้ให้บริการเรือขนส่งปิโตรเลียมรายใหญ่ของไทย โดยเข้าถือหุ้น 70% ช่วยเพิ่มขีดความสามารถการให้บริการและได้ฐานลูกค้ารายใหม่ๆ เพิ่มเติม ช่วยสร้างรายได้ให้แก่กลุ่มธุรกิจเรือขนส่งขนาดเล็กของ PRM มีความแข็งแกร่งมากขึ้น

               
“ปีที่ผ่านมา แม้อุตสาหกรรมการขนส่งน้ำมันปิโตรเลียมทางทะเลจะไม่ดีนัก แต่เราสามารถบริหารจัดการพอร์ตกองเรือของเราให้มีประสิทธิภาพสูงสุดและมีต้นทุนการดำเนินงานต่ำ รวมถึงปรับกลยุทธ์มุ่งขยายกองเรือขนส่งปิโตรเลียมภายในประเทศเพิ่มมากขึ้น ซึ่งสะท้อนถึงประสบการณ์และการบริหารงานที่ช่วยให้เราทำผลการดำเนินงานได้เป็นที่น่าพอใจ” นายชาญวิทย์ กล่าว

               
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2562 มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลจากงวดผลการดำเนินงานปี 2561 ในอัตรา 0.14 บาทต่อหุ้น เพื่อตอบแทนให้แก่ผู้ถือหุ้น โดยกำหนดปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นเพื่อสิทธิ์รับเงินปันผล (RD) ในวันที่ 29 เมษายน 2562 ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 26 เมษายน 2562 นี้ และกำหนดจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นวันที่ 15 พฤษภาคม 2562

               
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PRM กล่าวว่า ส่วนปีนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าผลการดำเนินงานเติบโต 10-15% จากแผนงานที่มุ่งสร้างความแข็งแกร่งของพอร์ตกองเรือในทุกกลุ่มธุรกิจ เพื่อเพิ่มศักยภาพการดำเนินธุรกิจการให้บริการ หลังจากทิศทางอุตสาหกรรมขนส่งปิโตรเลียมระหว่างประเทศในปี 2562 มีแนวโน้มฟื้นตัวได้ดี ทำให้ค่าระวางเรือปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงกลุ่มธุรกิจ FSU ที่มีความต้องการใช้เรือเพิ่มขึ้นจากปัจจัยที่ต้องการใช้กักเก็บน้ำมันเตากำมะถันสูงเพื่อผสมกับน้ำมันเตากำมะถันต่ำ ให้ได้น้ำมันเตาที่มีค่ากำมะถันต่ำตามมาตรฐาน IMO


ดังนั้น เป็นโอกาสที่ PRM จะพิจารณาลงทุนเรือ FSU เพิ่มขึ้นอีก 1 ลำ นอกจากนี้บริษัทฯ จะทยอยรับเรือใหม่ในกลุ่มเรือขนส่งภายในประเทศขนาด 3,000 DWTจำนวน 6 ลำ แบ่งเป็นเรือที่กลุ่มบริษัทฯ ลงทุนเอง จำนวน 5 ลำ และ บิ๊ก ซี 1 ลำ ตามแผนที่วางไว้ ส่งผลให้สิ้นปี 2562 PRM จะมีขนาดกองเรือรวมทั้งสิ้นจำนวนมากกว่า 40ลำ จากเดิมที่มีอยู่ 36 ลำ ช่วยสร้างความเข้มแข็งของพอร์ตกองเรือในการให้บริการแก่ลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น