TNR มั่นใจผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังฟื้นตัว

บมจ.ไทยนิปปอนรับเบอร์อินดัสตรี้ หรือ TNR ผู้ผลิตและจำหน่ายถุงยางอนามัยจากน้ำยางธรรมชาติรายใหญ่ที่สุดในไทย ตั้งเป้าดันผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังฟื้นตัว มั่นใจทำผลงานดีกว่าครึ่งปีแรก วางแผนงานเร่งเพิ่มยอดขายกลุ่มสินค้าภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯ หลังผลการดำเนินงานไตรมาส 2/62 ได้รับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงาน และตั้งสำรองผลประโยชน์พนักงานเพิ่มเติม

 

นายอมร ดารารัตนโรจน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยนิปปอนรับเบอร์อินดัสตรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ TNR เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีความมั่นใจจะทำผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังได้ดีกว่าครึ่งปีแรก โดยวางแผนเร่งเพิ่มยอดขายกลุ่มสินค้าภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯ ได้แก่ แบรนด์ PLAYBOY และ ONETOUCH® ซึ่งเป็นสินค้าที่มีอัตรากำไรขั้นต้นค่อนข้างสูง โดยตั้งเป้ารายได้จากกลุ่มสินค้าดังกล่าว 20% ของเป้าหมายรายได้รวมในปีนี้

 

ทั้งนี้ การดำเนินธุรกิจครึ่งปีแรกได้รับผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนและค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในไตรมาส ที่ผ่านมา ได้แก่ (1) ผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนที่เกิดจากเงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว อยู่ที่ระดับต่ำกว่า 31 ดอลลาร์สหรัฐและทำสถิติสูงสุดในรอบ ปี (2) ค่าใช้จ่ายด้านการลงทุนวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ถุงยางอนามัยที่เป็นนวัตกรรมใหม่ (3) ค่าใช้จ่ายจากการตั้งสำรองผลประโยชน์พนักงานเพิ่มขึ้นตามกฎหมายแรงงานใหม่ของบริษัทฯ และบริษัทย่อย และ (4) ค่าใช้จ่ายจากการจัดอีเวนต์ PLAYBOY CONDOMS GLOBAL SUMMIT & THE LEGEND PARTY2019 หลังจากบริษัทฯ ได้รับสิทธิ์ Global license ในการขายและทำการตลาดถุงยางอนามัยแบรนด์ PLAYBOY รวมถึงค่าที่ปรึกษาและค่าสนับสนุนการตลาดอื่นๆ

 

สำหรับการตั้งสำรองผลประโยชน์เพิ่มขึ้นและการจัดอีเวนต์ PLAYBOY CONDOMS ถือเป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในไตรมาส ที่ผ่านมา ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมการดำเนินงานครึ่งปีหลัง ประกอบกับในช่วงครึ่งปีหลังของทุกปี บริษัทฯ จะได้รับคำสั่งซื้อสินค้าเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก เนื่องจากลูกค้าต้องการสต๊อกสินค้าให้เพียงพอกับการขาย ส่วนผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนที่มีความผันผวนนั้น บริษัทฯ จะทำประกันความเสี่ยงค่าเงินและอาจพิจารณาปรับขึ้นราคาสินค้าในบางประเทศเพื่อชดเชยค่าเงิน จึงมั่นใจว่าผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังจะปรับตัวดีขึ้น

 

ขณะที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/62 (เมษายน  มิถุนายน) บริษัทฯ มีรายได้สุทธิ  339.4 ล้านบาท โดยที่ช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 325.0 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 2.5 ล้านบาท ชะลอตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 34.2 ล้านบาท ส่งผลให้ภาพรวมการดำเนินงานงวด เดือนแรกของปีนี้ (มกราคม  มิถุนายน) บริษัทฯ มีรายได้สุทธิ 638.6 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 679.0 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 12.6 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 49.6 ล้านบาท