บมจ.มัดแมน เดินหน้าเข้าตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เตรียมขาย IPO 210,980,750 หุ้น หลัง ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟล์ลิ่ง ตั้งเป้าก้าวสู่ผู้นำธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มอย่างยั่งยืน
ก.ล.ต. นับหนึ่งแบบไฟล์ลิ่ง บมจ. มัดแมน หรือ MM ผู้นำธุรกิจอาหารและไลฟ์สไตล์แบรนด์ระดับโลก เตรียมเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 210,980,750 หุ้น คาดเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ภายในไตรมาส 2 ของปีนี้ ด้านผู้บริหารมั่นใจในศักยภาพการดำเนินธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม ที่ได้สิทธิ์มาสเตอร์แฟรนไชส์จากต่างประเทศ (ดังกิ้น โดนัท, โอ บอง แปง และบาสกิ้น ร็อบบิ้นส์) และที่ดำเนินงานภายใต้แบรนด์ของตนเอง (เกรฮาวด์ คาเฟ่ และครัวเอ็ม) ตลอดจนธุรกิจไลฟ์สไตล์ เช่น เสื้อผ้า เครื่องประดับภายใต้แบรนด์ ‘เกรฮาวด์’ โดยตั้งเป้าหมายก้าวเป็นผู้นำธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มอย่างยั่งยืน
นางสาววีณา เลิศนิมิตร ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ สาย Primary Distribution ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดเผยว่า หลังจากที่ บริษัท มัดแมน จำกัด (มหาชน) ได้ยื่นคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟล์ลิ่ง) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อขอเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 210,980,750 หุ้น ล่าสุด สำนักงาน ก.ล.ต.ได้นับหนึ่งแบบคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นและแบบไฟล์ลิ่งของ บมจ. มัดแมน เป็นที่เรียบร้อย
ทั้งนี้ บมจ.มัดแมน ถือเป็นผู้นำธุรกิจอาหารและไลฟ์สไตล์แบรนด์ระดับโลก โดยดำเนินธุรกิจในลักษณะโฮลดิ้ง คอมปานี ที่เข้าถือหุ้น 100% ในบริษัทย่อย ในกลุ่มธุรกิจ 2 ประเภท คือ 1. ธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม ทั้งที่ดำเนินกิจการภายใต้สัญญามาสเตอร์แฟรนไชส์กับต่างประเทศ ได้แก่ ดังกิ้น โดนัท โอ บอง แปง และบาสกิ้น ร็อบบิ้นส์ และที่ดำเนินกิจการภายใต้แบรนด์ของตนเอง ได้แก่ เกรฮาวด์ คาเฟ่ และครัวเอ็ม 2. ธุรกิจไลฟ์สไตล์ ภายใต้แบรนด์ ‘เกรฮาวด์’ ได้แก่ เสื้อผ้าแฟชั่น เครื่องประดับรวมถึงร่วมมือกับแบรนด์อื่น ๆ สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ภายใต้คอนเซ็ปต์ที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ ‘เกรฮาวด์’
"มั่นใจว่าธุรกิจของมัดแมนเป็นที่รู้จักและอยู่ในชีวิตประจำวันของทุกคนอยู่แล้ว โดยเฉพาะแบรนด์ระดับโลกที่มัดแมนมีสิทธิเพียงผู้เดียวในประเทศไทย ภายใต้สัญญามาสเตอร์แฟรนไชส์ ซึ่งถือเป็นธุรกิจที่เป็น Cash Cow หรือมีส่วนแบ่งการตลาดในระดับสูง ขณะเดียวกัน ธุรกิจที่มัดแมนเป็นเจ้าของคือแบรนด์เกรฮาวด์ คาเฟ่ ก็มีรายได้จากการขายแฟรนไชส์ จึงเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง" นางสาววีณา กล่าว
นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน กล่าวว่า ปัจจุบัน บมจ.มัดแมน มีทุนจดทะเบียน 1,054,903,750 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 1,054,903,750 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท โดยทุนที่ออกและชำระแล้วมีจำนวน 843,923,000 บาท โดยจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 210,980,750 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 20 ของจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ ซึ่งแบ่งการเสนอขายหุ้น IPO เป็น 2 ส่วน โดยในส่วนแรกจะเสนอขายแก่ผู้ถือหุ้นของ บริษัท ทรัพย์ศรีไทย จำกัด (มหาชน) (“SST”) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ MM ตามสัดส่วนการถือหุ้นใน SST (Pre-emptive Right) ไม่เกิน 105,490,375 หุ้น หรือคิดเป็นไม่เกินร้อยละ 50 ของจำนวนหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ และ ส่วนที่สองจะเสนอขายแก่ประชาชนทั่วไปไม่เกิน 105,490,375 หุ้น หรือไม่เกินร้อยละ 50 ของจำนวนหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ และหุ้นที่เหลือจากการจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นของ SST
โดยภายหลังจากที่ ก.ล.ต. อนุมัติแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟล์ลิ่ง) และแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์ให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก บริษัทฯ และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายจะร่วมกันกำหนดวันและราคาเสนอขายหุ้น IPO ต่อไป และคาดว่าจะนำ บมจ.มัดแมน เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ภายในไตรมาส 2 ของปีนี้ โดย บมจ.มัดแมนจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนและดำเนินงานทั่วไปของบริษัทฯ ใช้ชำระคืนเงินกู้ธนาคาร และลงทุนขยายธุรกิจ เช่น การขยายสาขาใหม่ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ปรับปรุงภาพลักษณ์สาขาเดิม ตลอดจนการขยายช่องทางกระจายสินค้าและการนำเสนอร้านค้ารูปแบบใหม่ เป็นต้น
ด้านนายนาดิม ซาเวียร์ ซาลฮานี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.มัดแมน หรือ MM กล่าวว่า ณ วันที่ 30 กันยายน 2559 ธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มและธุรกิจไลฟ์สไตล์ของบริษัทฯ มีสาขารวม 439 สาขา แบ่งเป็นธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม ที่ดำเนินกิจการภายใต้สัญญามาสเตอร์แฟรนไชส์กับต่างประเทศจำนวน 3 แบรนด์ ได้แก่ 1. ดังกิ้น โดนัท จำนวน 296 สาขา เพื่อผลิตและจำหน่ายโดนัทและเครื่องดื่มที่เน้นกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อระดับกลางถึงบน รวมถึงมีบริการจัดเลี้ยงและออกร้าน 2. โอ บอง แปง จำนวน 71 สาขา เพื่อจำหน่ายเบเกอรี่ แซนด์วิช สลัด ซุป ที่เป็นเมนูเพื่อสุขภาพ จำหน่ายกาแฟระดับพรีเมียมรวมถึงเครื่องดื่มอื่นๆ และ 3. บาสกิ้น ร็อบบิ้นส์ มีจำนวน 31 สาขา จำหน่ายไอศกรีมนำเข้าระดับพรีเมียมที่คนไทยเข้าถึงได้ โดยบริษัทฯ มีแผนการขยายสาขาอย่างต่อเนื่องและพัฒนารูปแบบร้านที่ดึงดูดและตอบสนองพฤติกรรมผู้บริโภค
ส่วนธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มที่ดำเนินงานภายใต้แบรนด์ตนเอง ได้แก่ เกรฮาวด์ คาเฟ่ มีจำนวน 24 สาขา แบ่งเป็นสาขาในไทยที่บริษัทฯ ลงทุนเอง 13 สาขา และสาขาในต่างประเทศที่เป็นรูปแบบการขายแฟรนไชส์ในฮ่องกง เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่งและมาเลเซีย รวม 11 สาขา โดย เกรฮาวด์ คาเฟ่ แบ่งร้านอาหารเป็น 3 แบรนด์ ประกอบด้วยแบรนด์ร้านเกรฮาวด์ คาเฟ่ (Greyhound Café) มีสาขาทั้งในไทยและต่างประเทศ เน้นเจาะกลุ่มนักศึกษาและคนทำงานที่มีรายได้ปานกลางถึงสูง ภายใต้คอนเซ็ป “Simple with Creative Twist” หรือความเรียบง่ายที่แฝงไปด้วยลูกเล่น ความสร้างสรรค์และความสนุกสนาน รวมถึงแบรนด์ร้านอนาเธอร์ ฮาวด์ (Another Hound Café) ที่มีสาขาในไทย เน้นเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่และคนทำงานที่มีรายได้สูง สะท้อนไลฟ์สไตล์ที่พิถีพิถันในการใช้ชีวิตของคนเมือง ภายใต้คอนเซ็ป “Accessible Stylish Casual Italian with Asian Twist” ส่วนแบรนด์ร้านครัวเอ็มจะดำเนินธุรกิจรับบริหารศูนย์อาหารในโรงพยาบาล (Cafeteria) และบริการอาหารสำหรับผู้ป่วยใน (IPD Food Services) โดยเริ่มต้นดำเนินธุรกิจดังกล่าวที่โรงพยาบาลรามคำแหง และมีแผนที่จะขยายธุรกิจบริหารศูนย์อาหารในสถานที่ต่างๆ ไม่จำกัดเพียงแต่โรงพยาบาลเท่านั้น แต่ยังพิจารณาในการขยายสาขาไปยังสถานที่ต่างๆ เช่น โรงเรียนเอกชน หรือโรงเรียนนานาชาติ เป็นต้น ขณะที่ธุรกิจไลฟ์สไตล์ เน้นจำหน่ายสินค้าไลฟ์สไตล์ เช่น เสื้อผ้าและเครื่องประดับ โดยมีจำนวน 16 สาขา
“เรามีวิสัยทัศน์ที่จะเป็นบริษัทชั้นนำในธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงมีเป้าหมายก้าวสู่ผู้นำในธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มอย่างยั่งยืน โดยมุ่งเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดและผลักดันการเติบโตในอัตราที่สูงกว่าภาพรวมตลาด ดังนั้น เราจึงมีแผนลงทุนขยายธุรกิจที่ดำเนินการภายใต้สิทธิ์มาสเตอร์แฟรนไชส์และแบรนด์ของตนเอง ทั้งการขยายสาขาใหม่ เปิดตัวร้านรูปแบบใหม่ ปรับปรุงภาพลักษณ์สาขาปัจจุบัน เพื่อตอบสนองความต้องการและพฤติกรรมของผู้บริโภค และผลักดันการเติบโตตามเป้าหมาย” นายซาลฮานี กล่าว
นางสาวหรรษา เสริมศรี รองประธานบริหารฝ่ายบัญชีและการเงิน MM กล่าวว่า บริษัทฯ มีจุดเด่นด้านวงจรเงินสดหมุนเวียนอยู่ในระดับที่ดี กล่าวคือ บริษัทฯ รับรายได้เป็นเงินสดจากลูกค้าในทันทีแต่การจ่ายเงินคู่ค้าเป็นในลักษณะเครดิตทางการค้า ขณะเดียวกันธุรกิจของมัดแมนมีจุดแข็งด้านแบรนด์สินค้าซึ่งเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมจากผู้บริโภค เนื่องจากได้ให้ความสำคัญกับการสร้างตราสินค้าและพัฒนาธุรกิจอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งมีทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มกว่า 10 ปี เพื่อวางแผนพัฒนานวัตกรรมใหม่ ทั้งด้านผลิตภัณฑ์ที่มีความแปลกใหม่ รูปแบบร้านที่มีความทันสมัย โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการวางแผนนำเสนอร้านค้าในรูปแบบใหม่และพัฒนากลยุทธ์การตลาดใหม่ๆ ที่จะช่วยเพิ่มยอดขายให้เติบโต
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้วางกลยุทธ์สร้างการเติบโตในอนาคต ได้แก่ การมุ่งเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง การควบคุมคุณภาพมาตรฐานสินค้าตั้งแต่ขั้นตอนการคัดสรรวัตถุดิบจนถึงการกระจายสินค้าไปถึงหน้าร้าน การบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพและรัดกุม การกระตุ้นยอดขายและเพิ่มการรับรู้แบรนด์โดยเน้นการทำตลาดผ่านสื่อดิจิทัล การสร้างคุณค่าให้กับแบรนด์ การขยายสาขาใหม่ในทำเลที่มีศักยภาพ การปรับปรุงร้านค้าเพื่อตอบโจทย์ความต้องการลูกค้า การมุ่งเน้นพัฒนาบุคลากรและรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้มีส่วนได้เสียของบริษัทฯ
รายละเอียดเพิ่มเติม: http://investor-th.mudman.co.th/ipo.html